เมื่อวันที่ 11 กันยายน พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีแนวร่วมผู้ก่อความไม่สงบกลุ่มอาร์เคเค 80 คน เข้าพบ พล.ท.อุดมชัยธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 โดยมีเงื่อนไขยอมวางอาวุธหากได้รับประกันความปลอดภัยในชีวิตและจัดหางานเพื่อประกอบอาชีพ ว่า ถือเป็นหนทางที่ดีในการเปิดการเจรจากันอย่างสันติ แม้กลุ่มที่เข้าพบไม่ใช่หน่วยปฏิบัติการทั้งหมด โดยนายกรัฐมนตรี ได้แต่งตั้งคณะกรรมการประสานงานเพื่อสันติชายแดนใต้ พิจารณาเรื่องนี้แล้ว ซึ่งจะหารือร่วมกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) และ รมว.ยุติธรรม
บิ๊กอ๊อดเผย RKK, มอบตัว มทภ.4
พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวต่อว่า ทางแม่ทัพภาคที่ 4 มีโครงการพาคนกลับบ้าน เพื่อให้ผู้ก่อความไม่สงบ เข้ามาเจรจากัน ซึ่งกลุ่มอาร์เคเค 80 คน ที่เข้าพบจะมีการหางานเพื่อประกอบอาชีพ ส่วนความผิดทางคดีอาญา ต้องดูว่าจะสามารถช่วยเหลือได้อย่างไรบ้าง
ผบ.ทบ.ไม่ค้านเลือกตั้งผู้ว่าฯ 3 จว.
ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.กล่าวถึงกรณี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เสนอให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัด ว่า เป็นเรื่องของฝ่ายการเมือง ไม่คิดว่าถูกหรือผิด ต้องดูว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ ประชาชนในพื้นที่ต้องการอย่างไร ส่วนตนทำงานฝ่ายความมั่นคงคงต้องดูว่ามีผลดีหรือผลเสีย คุ้มหรือไม่ที่จะมีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ ตนไม่ได้ขัดแย้งกับรัฐบาล แต่เราต้องมีทุกมาตรการในการป้องกันเหตุร้าย
ชี้เห็นผลการทำงานโจรใต้มอบตัว
ต่อข้อถามกรณีกลุ่มอาร์เคเค 80 คน เข้ามอบตัวกับแม่ทัพภาคที่ 4 พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เป็นความก้าวหน้าที่เราทำงานแต่ไม่สามารถพูดได้ก่อน เรามีการติดต่อและพยายามพูดคุยกันมาตลอด ภาคประชาสัมคม พ่อ แม่ ญาติพี่น้องเขามีอยู่ กองทัพเปิดโอกาสให้ตลอด ขึ้นอยู่กับรัฐว่าจะสามารถดูแลผู้ก่อความไม่สงบเหล่านี้ได้มากน้อยแค่ไหน อีกประการ คือ เขาเห็นความโหดร้ายของฝ่ายผู้ก่อเหตุ เพราะคนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย จึงมอบตัว ส่วนอีกฝ่ายก็คงพยายามไม่ให้กลุ่มคนเหล่านี้มอบตัว เขาจึงใช้ความรุนแรง วันนี้ถือเป็นความสำเร็จอีกก้าวหนึ่ง ซึ่งเรื่องอื่นๆ คงจะตามมา
อ้างตรวจชื่อแล้วล้วนเป็นตัวจริง
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทั้ง 80 คน ที่มอบตัวเป็นตัวจริงหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า มีการตรวจสอบแล้ว ทั้งหมดมีรายชื่อในทำเนียบกำลังรบของผู้ก่อความไม่สงบที่กองทัพจัดทำขึ้น ก็ต้องมาพิสูจน์ความจริงใจต่อกัน ถ้าไม่ใช่กลุ่มคนเหล่านี้จะมาให้จับทำไม ยืนยันว่าเราทำงานตามหลักการ ตรวจสอบละเอียดว่าคนเหล่านี้ทำไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือไม่ ถูกหลอกจริงหรือไม่ ทุกอย่างต้องตรวจสอบก่อนเข้าสู่กระบวนการแก้ปัญหา
แกนนำโจร-พวก 100 คนมอบตัว
เวลา 13.30 น.ที่ สำนักงานคณะกรรมการอิสลาม จ.นราธิวาส พล.ท.อุดมชัย เป็นประธานรับการแสดงตัวยืนยันเพื่อยุติการต่อสู้ของนายแวอาลีคอปเตอร์ วาจิ หรือ “เจ๊ะ อาลี” ที่ทางการเคยตั้งรางวัลนำจับ 1 ล้านบาท โดยพบว่าเป็นตัวการวางแผนและสั่งการให้แกนนำระดับปฏิบัติการนำกำลังเข้าปล้นปืนที่กองพันพัฒนาที่ 4 ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2547 จนมีทหารเสียชีวิต 4 นาย ซึ่งนายแวอาลีคอปเตอร์ ได้นำผู้หลงผิด 100 คน เข้าร่วมเป็นผู้พัฒนาชาติไทย ตามแผนพาคนกลับบ้าน โครงการประสานใจเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้
ร่อนจม.เปิดผนึกขอคำมั่นฝ่ายรัฐ
ทั้งนี้ การแสดงตัวยืนยันยุติการต่อสู้ของนายแวอาลีคอปเตอร์ กับพวก ครั้งนี้ ได้ทำจดหมายเปิดผนึกในนามกลุ่มปลดปล่อยความขัดแย้งเขตปกครองใหม่มลายูปัตตานี มีข้อสรุปร่วมกัน คือ 1.เข็มมุ่งทางยุทธศาสตร์การต่อสู้ล้ำหน้ามวลชนและยาวไกลเกินไป 2.การชี้นำแนวทางขององค์กรนำ ไม่สามารถให้คำอธิบายได้ชัดเจนในทางยุทธวิธีเพื่อบรรลุยุทธศาสตร์อย่างเป็นระบบ และ 3.เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนแปลง รัฐกำหนดนโยบายที่สร้างสรรค์มากขึ้น พวกเราจึงต้องกำหนดแนวทางใหม่ พร้อมกับขอทราบทิศทางความชัดเจนแนวทางปฏิบัติต่อข้อเรียกร้อง
สำหรับประเด็นข้อเรียกร้อง คือ 1.รัฐมีมาตรการดำเนินการต่อผู้ที่ยุติบทบาทการใช้ความรุนแรงอย่างไร โดยเฉพาะผู้ที่มีหมายจับ 2.รัฐจะจัดการความขัดแย้งให้เป็นรูปธรรมอย่างไรเพื่อให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการสร้างสันติภาพในพื้นที่ และ 3.รัฐมีหลักประกันเช่นไรในการกำหนดนโยบายให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เราคาดหวังคำตอบที่เป็นรูปธรรม ซึ่งจะเป็นก้าวสำคัญที่จะสร้างสังคมให้มีความสันติสุขยุติความรุนแรงโดยสิ้นเชิง แม้มีบางกลุ่มยังเคลื่อนไหวด้วยวิธีรุนแรง แต่ที่สุดก็จะเป็นส่วนน้อยในทรรศนะของมวลชนส่วนใหญ่
โร่เช็คหมายจับก่อนให้ประกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเข้ามอบตัวครั้งนี้เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงมีการเช็คประวัติเป็นรายบุคคล หากมีหมายจับก็จะนำสู่กระบวนการสอบสวน และอนุญาตให้ประกันตัวสู้คดี ถ้าไม่มีหมายจับและตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีความมั่นคงก็จะนำเข้าอบรมเพื่อสลายพฤติกรรม พร้อมทั้งหาอาชีพให้ทำเพื่อจะได้อยู่กับครอบครัวต่อไป
ชี้ดูแลดีมีหัวโจก 2 รายรอมอบตัว
รายงานข่าวแจ้งว่า หากรัฐบาลดูแลและให้ความเป็นธรรมต่อนายแวอาลีคอปเตอร์ และพวก อย่างดี อีกไม่นาน นายสะแปอิง บาซอ และนายมะแซ อุเซ็ง แกนนำคนสำคัญที่เคลื่อนไหวอยู่ก็จะประสานออกมาแสดงตัวยืนยันยุติการต่อสู้กับรัฐ ซึ่งมีแนวโน้มความเป็นไปได้สูง แต่คงขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาลและกองทัพ ที่ต้องกำหนดกรอบให้ชัดเจนเรื่องคดีความ
นอกจากนี้ แหล่งข่าวจากหน่วยงานด้านความมั่นคง เปิดเผยว่า การขอเจรจากับรัฐบาลเรื่องความขัดแย้งในจังหวัดชายแดนภาคใต้ของนายคัสตูรี มะโกตา หัวหน้ากลุ่มพูโล ซึ่งตั้งสำนักงานอยู่ที่ประเทศสวีเดน ได้มีการประสานตรงไปยังนายกรัฐมนตรี ครั้งหนึ่งแล้วเมื่อวันที่ 4กันยายนที่ผ่านมา แต่เรื่องดังกล่าวเงียบหายไปจึงเป็นข้อกังขาอย่างหนึ่งที่ทำให้แนวร่วมผู้ก่อความไม่สงบยังไม่กล้าออกมามอบตัว และยังคงทำให้ภาคใต้มีสถานการณ์ความรุนแรงเรื่อยมาถึงทุกวันนี้
แม่ทัพ 4 เผยเป็นจุดเริ่มที่ดี แต่ต้องเข้าสู่กระบวนการทางกฏหมาย
ขณะที่แม่ทัพภาคที่ 4 ได้กล่าวกับผู้ที่แสดงตนทั้ง 93 คนว่า ทุกคนที่มาในวันนี้เพื่อแสดงจุดยืนในอุดมการณ์การต่อสู้เชิงสันติ และเป็นไปตามนโยบายสานใจสู่สันติของกองทัพภาคที่ 4 เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายยอมรับในความแตกต่าง แต่ยอมรับไม่ได้ในการใช้ความรุนแรงเข้าต่อสู้ ในส่วนของผู้ที่มีหมาย พรก.เมื่อเข้ามาแสดงตัวกับเจ้าหน้าที่ ถือว่า พรก.ยุติและจะได้รับการคุ้มครองจากรัฐ ส่วน ป.วิอาญาก็จะต้องผ่านกระบวนการทางกฎหมายที่เอื้อต่อผู้ที่หลงผิดที่กลับใจ อย่างไรก็ตาม นโยบายของทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ได้กำหนดกรอบไว้อย่างชัดเจนเพื่อให้มีการต่อสู้เชิงสันติ ทั้งการสร้างความเข้าใจรวมทั้งการเปิดพื้นที่เพื่อให้มีการพูดคุยของผู้หลงผิดกับเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อปรับแนวทางเข้าหันให้มากที่สุด แต่ย้ำว่าทุกคนมีทางออก ไม่มีใครแพ้หรือชนะ อย่างไรก็ตาม ผู้ที่แสดงตนในครั้งนี้ทั้งหมดอยู่ระหว่างขั้นตอนกระบวนการทางกฎหมายในการต่อสู้คดีในชั้นศาลต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น