15.11.55

จุฬาราชมนตรีแจงอิสลามไม่ห้ามทำงานวันศุกร์


จุฬาราชมนตรีร่อนเอกสารแจงอิสลามไม่ได้ห้ามทำงานวันศุกร์ ชี้พวกที่ข่มขู่เข้าข่ายละเมิดสิทธิสุจริตชน แอบอ้างศาสนาเพื่อประโยชน์ส่วนตน กระแสหยุดวันศุกร์ลามถึงขั้นขู่ปิดโรงเรียน ไม่รับรองความปลอดภัยครูที่ไปสอน 
          นายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี ได้ส่งหนังสือตอบเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ชี้แจงกรณีการทำงานในวันศุกร์ของมุสลิม เพื่อให้เกิดความกระจ่างและความเข้าใจที่ถูกต้องต่อมุสลิมและประชาชนทั่วไป 
          หนังสือของจุฬาราชมนตรีมีความยาว 3 หน้ากระดาษ (ไม่รวมใบปะหน้า) สรุปว่า การทำงานในวันศุกร์มิได้ขัดแย้งกับหลักศาสนาอิสลาม เพราะการทำงานเพื่อให้ได้มาซึ่งปัจจัยยังชีพเป็นสิ่งที่อิสลามให้ความสำคัญเป็นอย่างสูง เนื่องจากการดำรงชีพโดยมุ่งสู่เป้าหมายที่องค์อัลลอฮ์พระผู้เป็นเจ้าทรงกำหนดนั้น เพื่อให้สามารถดำรงชีพได้โดยไม่เป็นภาระต่อผู้อื่น และสามารถทำหน้าที่เพื่ออัลลอฮ์ได้โดยไม่ตกอยู่ใต้อิทธิพลของผู้ใด ผู้ทำงานด้วยน้ำพักน้ำแรงเพื่อเลี้ยงชีพตนเองและครอบครัวด้วยอาชีพสุจริตจึงเป็นผู้ประเสริฐ
          "เมื่อคนเราต้องบริโภคทุกวัน อิสลามจึงไม่ห้ามที่จะทำงานทุกวัน แม้วันนั้นจะเป็นวันศุกร์ ซึ่งถือเป็นวันสำคัญประจำสัปดาห์ก็ตาม สิ่งที่อิสลามบัญญัติก็คือบุคคลต้องไม่ให้ความสำคัญแก่การทำงานหารายได้มากกว่าการประกอบพิธีละหมาดญุมอะฮ์ (ละหมาดวันศุกร์) ถวายเป็นอิบาดะห์ต่ออัลลอฮ์พระผู้เป็นเจ้า" นายอาศิสระบุตอนหนึ่ง
          จุฬาราชมนตรียังได้ยกพระดำรัสแห่งอัลลอฮ์ ซูรอฮ์ (โองการ) อัลญุมุอะฮ์ อายะฮ์ที่ 9-10 ความว่า "ดูกรผู้มีศรัทธาทั้งหลาย เมื่อเสียงเรียกร้องสู่การละหมาดดังขึ้นในวันศุกร์ พวกเจ้าก็จงรีบเร่งไปสู่การรำลึกถึงอัลลอฮ์เถิด และจงยุติการซื้อขายเสีย นั่นเป็นสิ่งที่ดีสำหรับพวกเจ้า หากพวกเจ้ารู้"
          "ครั้นเมื่อการประกอบพิธีละหมาดเสร็จสิ้นลง พวกเจ้าก็จงกระจายไปในแผ่นดินเถิด จงแสวงหาคุณูปการแห่งอัลลอฮ์ (ทำงานหารายได้) และจงรำลึกถึงพระองค์ให้มาก เพื่อพวกเจ้าจะได้พบกับความสำเร็จ"
          หนังสือของจุฬาราชมนตรี ยังระบุอีกว่า ฉะนั้นแม้จะเป็นวันศุกร์ แต่อัลลอฮ์ก็ยังส่งเสริมให้ทำงานเพื่อแสวงหาคุณูปการที่พระองค์ทรงสร้างไว้ให้ สิ่งที่ผู้ทำงานทุกคนต้องรำลึกอยู่เสมอก็คือ เมื่อได้ยินเสียงอะซานเรียกร้องสู่การละหมาด งานทุกอย่างต้องยุติลง และบุคคลต้องเตรียมตัวไปละหมาดอย่างรีบเร่ง ครั้นเมื่อละหมาดเสร็จสิ้นแล้วก็รีบไปทำงานต่อ โดยมีจิตรำลึกอยู่เสมอว่าโภคปัจจัยที่ได้มาล้วนเป็นคุณูปการแห่งอัลลอฮ์ทั้งสิ้น
          "ดังนั้นการข่มขู่ให้สุจริตชนหยุดทำงานในวันศุกร์ นับเป็นการกระทำที่ละเมิดสิทธิของบุคคลอื่น เป็นการแอบอ้างศาสนาอิสลามเพื่อผลประโยชน์ของตนอย่างมิชอบ และเป็นการกระทำที่อยู่นอกกรอบแนวทางของอัลลอฮ์อย่างสิ้นเชิง" 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น