11.11.55

องค์กรนักศึกษาใน จชต. ความเคลือบแฝงในเงามืด ความจริงที่ต้องเปิดเผย


      ในกระแสการต่อสู้ด้านการเมืองระหว่างรัฐบาลไทยกับขบวนการแบ่งแยกดินแดนที่ดำเนินมาอย่างยาวนานนั้น ยุทธศาสตร์การสร้างแนวร่วมของขบวนการแบ่งแยกดินแดนเพื่อใช้เป็นมวลชนสนับสนุนเป็นอีกวิธีการหนึ่งที่ถูกนำมาใช้อย่างได้ผล โดยเฉพาะการใช้ความแตกต่างทางอัตลักษณ์ ประวัติศาสตร์ชาติพันธุ์และศาสนามาบิดเบือนโดยมุ่งหวังจุดประกายความแตกแยก สร้างสถานการณ์ให้ลุกลามจนนำไปสู่การเข้ามาแทรกแซงขององค์กรระหว่างประเทศ แล้วเข้าสู่กระบวนการแยกตัวเป็นเอกราชต่อไป
ในช่วงเกือบ ๒๐ ปีที่ผ่านมาขบวนการใช้วิธีการนี้ในหลายกลุ่มเป้าหมาย และที่เกิดผลมากที่สุดคือกลุ่มเยาวชนทั้งนอกและในสถานศึกษา โดยเฉพาะในโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามและ “ปอเนาะ” โดยได้แอบแฝงเข้าไปในสถานศึกษาในภาพของครูสอนศาสนาอิสลาม ใช้การปลุกระดมบ่มเพาะด้วยการนำประวัติศาสตร์ ชาติพันธุ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งศาสนาอิสลามมาบิดเบือน เพื่อให้เกิดความคิดความเชื่อที่แตกต่าง สร้างความรู้สึกให้เกลียดชังเจ้าหน้าที่รัฐและระบบการปกครองของรัฐบาลไทย และเยาวชนส่วนหนึ่งจะถูกคัดเลือกเข้ารับการฝึกเป็นแนวร่วมปฏิบัติการ เพื่อใช้ในการก่อเหตุรุนแรง ส่วนเยาวชนที่มีความรู้ความสามารถในการถ่ายทอดจะถูกคัดเลือกให้เป็นผู้ขยายผลในการสร้างแนวร่วมในสถานศึกษาในแห่งอื่น ๆ ต่อไป
ที่น่าตกใจยิ่งไปกว่านั้น ขณะนี้การ ปลูกฝังโดยการบิดเบือนข้างต้น  ได้แพร่กระจายไปสู่โรงเรียนตาดีกาซึ่งเป็นระดับเด็กเล็กที่ยังไร้เดียงสา  เพราะง่ายต่อการปลูกฝังแนวคิดผิดๆ เหล่านั้น  ซึ่งก็ดำเนินการโดยเยาวชนที่ได้ถูกคัดเลือกและผ่านกรรมวิธีการถูกปลูกฝังบ่มเพาะมาแล้วนั่นเอง โดยการแฝงตัวเข้าสู่องค์กรนักศึกษาระดับอุดมศึกษาสถาบันต่าง ๆ ทั่ว จชต.ซึ่งแนวร่วมเหล่านี้นอกจากจะเป็นแกนนำในการเคลื่อนไหวโจมตีเจ้าหน้าที่รัฐโดยใช้ชื่อ “องค์กร นักศึกษาใน จชต.” มาโดยต่อเนื่องแล้ว ยังได้ขยายแนวคิดเชิงลบนี้ไปยังสถาบัน การศึกษาอื่น ๆ ในหลายวิธีการ รูปแบบหนึ่งคือการจัดกิจกรรมอำพรางในลักษณะการอบรมเข้าค่ายจริยธรรมบ้าง แนะแนวการศึกษาบ้างเพื่อนำเยาวชนออกนอกสถานศึกษาแล้วทำการปลูกฝังความเชื่อผิดๆ  มีการสอนให้ใช้ความรุนแรง  ยุยงปลุกปั่นให้เกลียดชังเจ้าหน้าที่รัฐตั้งแต่เด็กๆ  ซึ่งการกระทำดังกล่าวผู้บริหารโรงเรียนไม่ได้รับรู้เนื่องจากได้แต่อนุญาตเพราะเห็นชื่อกิจกรรมดี  แต่ไม่ได้ติดตามตรวจสอบรายละเอียด ปล่อยให้ผู้จัดกิจกรรมปฏิบัติไปตามอำเภอใจ ซึ่งผลที่เกิดขึ้นนั้นนับว่าร้ายแรง เพราะเป็นการกระทำต่อเด็กที่จะต้องเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในอนาคต ให้มองว่าการกระทำรุนแรงนั้นๆ เป็นเรื่องที่ถูกต้อง
หากยังมองภาพความสูญเสียในระยะยาวไม่ออก ลองนึกถึงการทำลายสิ่งสาธารณะ เผาตู้โทรศัพท์ เผากล้องวงจรปิด ความไม่มีวินัยในตนเอง การไม่ปฏิบัติตามกฎจราจร การใช้กฎหมู่เพื่ออยู่เหนือกฎหมาย และที่หนักมากที่สุดและเกิดขึ้นแล้วคือ การลอบเผาโรงเรียนที่ผู้ก่อเหตุเป็นเพียงเยาวชนที่ทำเพื่อต้องการได้โทรศัพท์มือถือเป็นสิ่งแลกเปลี่ยน  แล้วลองพิจารณาดูว่าเหตุการณ์แบบนี้เคยเกิดขึ้นในพื้นที่อื่นๆ ของประเทศหรือไม่นอกจากในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้แห่งนี้...เท่านั้น
นี่ไม่ใช่หรือคือผลงานอัปยศในการสร้างความเกลียดชังทางเชื้อชาติให้เกิดขึ้นกับเยาวชนเหล่านั้นของแนวร่วมที่แฝงตัวมาในคราบนักศึกษา ด้วยการปลูกฝังเช่นนี้เยาวชนเหล่านั้นจะเติบโตมาบนพื้นฐานความคิดแบบผิด ๆ แล้วบ้านนี้เมืองนี้จะอยู่ต่อไปอย่างสงบสุขได้อย่างไร และนี่คือการกระทำที่น่ารังเกียจของขบวนการฯ ที่มุ่งกระทำต่อเยาวชนแบบไร้จิตสำนึก
          กิจกรรมของนักศึกษาระดับอุดมศึกษาทั่วประเทศส่วนใหญ่เป็นการใช้พลังของเยาวชนหนุ่มสาวในเชิงสร้างสรรค์ใช้ความเป็นปัญญาชนเข้าช่วยเหลือจรรโลงสังคมอย่างมีสำนึกรับผิดชอบเป็นสำคัญ และปฏิเสธไม่ได้ว่าด้วยพลังของนักศึกษานี่แหละที่เคยเป็นส่วนขับเคลื่อนสำคัญในการแก้ไขปัญหาให้กับบ้านเมืองมาแล้วหลายต่อหลายครั้งในอดีตที่ผ่านมา ซึ่งองค์กรนักศึกษาใน จชต. ส่วนใหญ่ก็ยึดถือปฏิบัติในแนวทางเดียวกัน เช่น การเคลื่อนไหวเรียกร้องให้ภาครัฐให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุรุนแรงอย่างจริงจัง การเรียกร้องให้ยุติการใช้ความรุนแรง หรือแม้แต่การประณามการก่อเหตุรุนแรงที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมากร่วมกับองค์กรภาคประชาสังคมอื่น ๆ นี่สิคือบทบาทที่น่ายกย่องและสมควรขับเคลื่อนต่อไป
การปล่อยให้มีนักศึกษาซึ่งเป็นแนวร่วมของขบวนการฯ แอบแฝงเข้ามาอยู่องค์กรฯ  แอบอ้างชื่อองค์กรนักศึกษาในการทำกิจกรรมที่ส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อสังคมในระยะยาว  จึงเท่ากับเป็นการปล่อยให้ผู้ไม่หวังดีเหล่านั้นทำลายชื่อเสียงและความตั้งใจดีของนักศึกษาในพื้นที่ จชต. ทั้งหมดให้เสียหายลงไปด้วย เหนือสิ่งอื่นใดในยามที่บ้านเมืองยังเกิดเหตุการณ์ไม่สงบ ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตรายวันจากการกระทำอันป่าเถื่อนของผู้ก่อเหตุรุนแรงอย่างไม่มีท่าทีว่าจะยุติลงได้ง่าย ๆ ความร่วมมือของทุกคนทุกฝ่ายเท่านั้นที่จะเป็นพลังอันสำคัญที่จะช่วยให้ฝันร้ายของพี่น้องประชาชนใน จชต.จบสิ้นลงได้โดยเร็ว
ในส่วนของนักศึกษาก็ขอเป็นกำลังใจในการขับเคลื่อนเพื่อให้เกิดความสงบสันติในบ้านเมืองของเราตามเจตนารมณ์และบทบาทที่สามารถทำได้ในฐานะปัญญาชนต่อไป  แต่ถ้าจะให้บรรลุผลดีขึ้นลองตรวจสอบองค์กรของตนเองหน่อยเป็นไรว่า  ใครเป็นผู้ที่ทำลายความปรารถนาดีของเราเหล่านักศึกษาที่มีต่อบ้านเมือง ใครแอบเข้ามาอ้างชื่อองค์กรนักศึกษาจัดกิจกรรมทำลายสังคมเพียงเพื่อทรัพย์สินที่แกนนำของขบวนการที่โยนให้

*****************************************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น